โฆษกกองทัพเรือแถลงปฏิบัติการในการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๗.๓๐ น.

วันนี้ (๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๕) เวลา ๑๗.๓๐ น. พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้สรุปการปฏิบัติภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือ จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางว่า ในวันนี้ กำลังทางเรือและอากาศยานยังคงดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือในพื้นที่ที่รับมอบหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งบนผิวน้ำและใต้แนวน้ำ นอกจากนั้น ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ของท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ เครือข่ายชาวประมง และสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งพร้อมทั้งลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณชายหาด ที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย โดยคำนวณจากทิศทางลมและกระแสน้ำ ซึ่งตลอดทั้งวัน เรือและอากาศยานได้เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำได้ รวม ๓ ร่าง จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของทางนิติเวช ซึ่งศพที่พบทั้ง ๓ รายนั้น คาดว่าจะใช้เวลาในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลโดยการตรวจดีเอ็นเอ ประมาณ ๓-๔ วัน จึงจะสามารถยืนยันตัวบุคคลได้ และมีรายงานว่าจากผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ๑ ราย สามารถยืนยันรายชื่อผู้เสียชีวิต ว่าคือ พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร สังกัด หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานทางรักษาฝั่ง โดยในวันพรุ่งนี้ จะมีการเคลื่อนศพ พลทหารวรพงษ์ จากโรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นเครื่องบินแบบฟอกเกอร์ของกองทัพเรือ จากกองบิน ๖ ไปยังสนามบินอู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี โดยจะเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภาในเวลา ๑๕.๐๐ น. ซึ่งมีรายงานว่า พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเดินทางไปร่วมในพิธีรับศพ ก่อนที่จะนำไปประกอบพิธี ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ

สำหรับในวันนี้ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น. พลเรือตรี สมรภูมิ จันโท รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ ที่ เมรุวัดราวนคร ตำบลคูตัน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

และในวันพรุ่งนี้ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๕) เวลา ๑๓.๐๐ น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ว่าที่ เรือเอก สามารถ แก้วผลึก  พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ และ พันจ่าเอก อำนาจ พิมที ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๕) เวลา ๑๗.๐๐ น.

ยอดกำลังพล ๑๐๕ นาย รอดชีวิต จำนวน ๗๖ นาย เสียชีวิตรวม ๑๘ นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว ๗ นาย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล ๑๑ นาย (๑ ราย ก่อนหน้านี้ที่มีรายงานว่ายังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือนั้น ขณะนี้มีหลักฐานยืนยันแล้วว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ)

คงเหลือผู้สูญหายจำนวน ๑๑ นาย

ทั้งนี้ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ได้ลงนามใน ประกาศศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เรื่องการประกาศเขตการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เนื่องด้วยในระหว่างวันที่ ๑๘-๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕ ได้เกิดเหตุเรืออับปางในทะเล ๓ ลำ คือเรือขนตู้คอนเทนเนอร์ สันทัดสมุทร ๒ ได้อับปางลงในตำบลที่ละติจูด ๐๙ องศา ๒๘.๖๙๙ ลิปดาเหนือ ลองจิจูด ๙๙ องศา ๑๙ ลิปดาตะวันออก เรือหลวงสุโขทัย ได้อับปางลงในตำบลที่ละติจูด ๑๑ องศา ๐.๓๙ ลิปดาเหนือ ลองจิจูด ๙๙ องศา ๕๓.๙๔ ลิปดาตะวันออก และ เรือ AnUBhum ได้อับปางลงในตำบลที่ละติจูด 10 องศา ๔๖.๔๑ ลิปดาเหนือ ลองจิจูด ๙๙ องศา ๓๓.๕๖ ลิปดาตะวันออก ดังนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินเรือและไม่เป็นการกีดขวางการปฏิบัติหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับเตรียมการปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันในทะเลที่อาจรั่วไหลออกจากเรืออับปาง จึงได้มีการประกาศเขตการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวน ๓ พื้นที่ ในบริเวณที่เรือทั้ง ๓ ลำ อับปาง จึงขอเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน